วันพุธที่ 19 ธันวาคม 2568 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม และศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษอากาศและภูมิอากาศ จัดการเสวนา “Air Pollution (PM2.5) and Heath Impacts” เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวทางรับมือปัญหามลพิษทางอากาศที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ได้มอบหมายให้นางสาวศิรินทร์พร เดียวตระกูล รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานกล่าวเปิดการเสวนา พร้อมด้วย ดร.สุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา ผู้บริหารจัดการศูนย์ร่วมผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษอากาศและภูมิอากาศ กล่าวต้อนรับและชี้แจงวัตถุประสงค์การจัดการเสวนา ณ ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ กรุงเทพมหานคร

นางสาวศิรินทร์พร เดียวตระกูล รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ในฐานะหน่วยงานหลักด้านการบริหารจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ให้ความสำคัญกับการผลักดันผลงานวิจัยและนวัตกรรมให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศและแก้ไขปัญหาเร่งด่วนที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะการขับเคลื่อนการพัฒนาศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางความรู้ (Hub of Knowledge) เพื่อบูรณาการความร่วมมือของนักวิจัยทั้งในระดับชาติและนานาชาติ ยกระดับศักยภาพบุคลากรวิจัยและเสริมสร้างฐานองค์ความรู้ที่เข้มแข็งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล สำหรับปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ถือเป็นวิกฤตการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างรุนแรง ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว วช.จึงให้การสนับสนุน ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม และ ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษอากาศและภูมิอากาศ ในการเป็นกลไกหลักในการบูรณาการองค์ความรู้ งานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อสร้างข้อเสนอเชิงนโยบายและแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบและยั่งยืน
การเสวนาครั้งนี้ได้รับเกียรติ จากผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในประเด็นสำคัญ อาทิ
– Air Pollution (PM2.5) and Heath Impacts
– ภาพรวมสถานการณ์ปัญหา PM2.5
– การคาดการณ์สถานการณ์ PM2.5 ล่วงหน้าจากการคาดการณ์สถานการณ์ เอลนีโญ และลานีญา
– มิติผลกระทบต่อสุขภาพของมลพิษอากาศ (PM2.5) ต่อสุขภาพของประชากรไทย
– กลไกมลพิษอากาศ (PM2.5) ต่อการเกิดโรค รวมถึง Near-Term Forecast of Health Impacts from PM2.5 in BKK
ทั้งนี้การเสวนามุ่งเน้นการนำองค์ความรู้ไปสู่การกำหนดมาตรการจัดการฝุ่น PM2.5 และหมอกควันอย่างครบวงจร ตั้งแต่การลดปัญหาที่ต้นเหตุ ควบคู่กับการสร้างความตระหนักรู้ด้านสุขภาพแก่ประชาชน ผ่านการบริหารจัดการแบบบูรณาการ การติดตาม เฝ้าระวัง การพยากรณ์ และแจ้งเตือนอย่างมีประสิทธิภาพ อันเป็นความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เพื่อมุ่งสู่คุณภาพอากาศที่ดีและคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของคนไทยอย่างมีประสิทธิภาพ อันเป็นความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เพื่อมุ่งสู่คุณภาพอากาศที่ดีและคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของคนไทย







