วันที่ 15 สิงหาคม 2568 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดการเสวนา หัวข้อ “เรื่อง พลิกโฉมอุตสาหกรรมยาไทยด้วยสารช่วยทางเภสัชกรรมจากวัตถุดิบภายในประเทศ” ร่วมกับศูนย์กลางความรู้ด้านอาหารเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ มอบหมายให้ นางสาวสุกัญญา อามีน ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม กล่าวต้อนรับในพิธีเปิดการเสวนา โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.นฤพร สุตัณฑวิบูลย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเปิดงาน โดยจัดขึ้นภายในงาน อว.แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND มหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ วิจัย และนวัตกรรม (อววน.) เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนด้วยพลังสหวิทยาการ ณ ห้องประชุม MR203 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

นางสาวสุกัญญา อามีน กล่าวถึง วช. ให้ความสำคัญต่อการพัฒนากลไกเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ทั้งในระดับชาติและนานาชาติ จึงสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางความรู้ (Hub of Knowledge) เพื่อสร้างเครือข่ายนักวิจัยในประเด็นสำคัญของประเทศ ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษา สถาบันวิจัย ภาครัฐ และภาคเอกชน ผ่านการแลกเปลี่ยนทรัพยากร ความรู้ และประสบการณ์ร่วมกัน เป้าหมายเพื่อพัฒนางานวิจัย กิจกรรมทางวิชาการ และการบริการวิชาการคุณภาพสูง ต่อยอดผลงานและนวัตกรรม ถ่ายทอดองค์ความรู้ และพัฒนาทักษะบุคลากรให้มีศักยภาพแข่งขันได้ในระดับสากล การเสวนาครั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยีพลาสมา เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ขยายเครือข่ายนักวิจัย และสร้างความร่วมมือในการพัฒนาและต่อยอดนวัตกรรมพลาสมาในอนาคต
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.นฤพร สุตัณฑวิบูลย์ กล่าวว่า การผลิตวัตถุดิบทางยาถือเป็นรากฐานสำคัญของอุตสาหกรรมยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ เนื่องจากคุณภาพและปริมาณของวัตถุดิบมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย ในปัจจุบัน ความต้องการใช้วัตถุดิบทางยามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล ทำให้เกิดความจำเป็นในการพัฒนามาตรการส่งเสริมที่ครอบคลุม ตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา การยกระดับกระบวนการผลิต มาตรฐานคุณภาพ ไปจนถึงการสนับสนุนด้านการตลาดและกฎหมาย เพื่อสร้างความมั่นคงทางยาและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศในเวทีโลก
-ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.รุ่งเพ็ชร์ สกุลบำรุงศิลป์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บรรยายเรื่อง “มาตรการการส่งเสริมการผลิตวัตถุดิบทางยา”การผลิตวัตถุดิบทางยามีบทบาทสำคัญต่อความมั่นคงทางยาและระบบสาธารณสุขของประเทศ เนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการผลิตยาที่มีคุณภาพและปลอดภัย ในยุคที่ความต้องการใช้ยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องมีกลยุทธ์และมาตรการส่งเสริมที่ชัดเจนและยั่งยืน เพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา ยกระดับมาตรฐานการผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างความเชื่อมั่นในตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ
-รองศาสตราจารย์ เภสัชกร ดร.จิตติมา ลัคคนากุล จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บรรยายเรื่อง “Future projection of Pharmaceutical Innovation”ในอนาคต อุตสาหกรรมยาจะเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูง และการแพทย์แม่นยำ (Precision Medicine) จะเข้ามามีบทบาทเพิ่มประสิทธิภาพการค้นพบยา การพัฒนาสูตรตำรับ และการผลิตที่มีคุณภาพสูงขึ้น
-รศ.ภก.ดร.บดินทร์ ติวสุวรรณ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บรรยายเรื่อง “Impurities concern during pharmaceutical material development ”ในกระบวนการพัฒนาวัตถุดิบทางยา การควบคุมและประเมินสิ่งเจือปน (Impurities) ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ สิ่งเจือปนอาจเกิดจากกระบวนการสังเคราะห์ การสกัด การเก็บรักษา หรือการเสื่อมสลายของสารออกฤทธิ์ ซึ่งหากไม่มีการตรวจสอบและกำจัดอย่างเหมาะสม อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้บริโภค มาตรฐานสากลจึงกำหนดให้มีการติดตาม วิเคราะห์ และกำหนดขีดจำกัดของสิ่งเจือปนอย่างเข้มงวด
-ภก.ทัฬห์ ปึงเจริญกุล จากสมาคมไทยอุตสาหกรรมผลิตยาเเผนปัจจุบัน (TPMA) บรรยายเรื่อง สถานการณ์ปัจจุบันของอุตสาหกรรมผลิตยาภายในประเทศไทยปัจจุบัน อุตสาหกรรมผลิตยาของประเทศไทยมีความสำคัญต่อระบบสาธารณสุขและเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยส่วนใหญ่เป็นการผลิตยาสามัญ (Generic Drugs) เพื่อรองรับความต้องการใช้ภายในประเทศ ขณะที่การผลิตยานวัตกรรม (Innovative Drugs) และวัตถุดิบทางยา (Active Pharmaceutical Ingredients: API) ยังมีสัดส่วนค่อนข้างน้อย ส่งผลให้ประเทศไทยต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบและยาสำเร็จรูปจากต่างประเทศในปริมาณสูง ซึ่งมีความเสี่ยงต่อความมั่นคงทางยาจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบและสถานการณ์โลก แม้ปัจจุบันจะมีการลงทุนในเทคโนโลยีการผลิตและการวิจัยมากขึ้น
-ดร.ศิวรัตน์ บุญยรัตกลิน จากบริษัท สยาม มอดิฟายด์ สตาร์ช จำกัด บรรยายเรื่อง “Pharmaceutical material self-reliance in Thailand”ความพึ่งพาตนเองด้านวัตถุดิบทางยาเป็นปัจจัยสำคัญต่อความมั่นคงทางยาของประเทศไทย ในปัจจุบัน ประเทศไทยยังต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบทางยาจากต่างประเทศเป็นสัดส่วนสูง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการขาดแคลนและต้นทุนที่ผันผวนจากสถานการณ์โลก การพัฒนาให้สามารถผลิตวัตถุดิบทางยาได้เองในประเทศ ไม่เพียงช่วยลดการพึ่งพาต่างชาติ แต่ยังสร้างมูลค่าเพิ่มในระบบเศรษฐกิจ ส่งเสริมอุตสาหกรรมยาและสมุนไพรของไทย














ทั้งนี้ กิจกรรมภายในงาน อว.แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND มีการประชุม บรรยาย เสวนา Workshop ในหัวข้อต่าง ๆ มากกว่า 130 หัวข้อ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและศักยภาพของหน่วยงานในกระทรวง อว. ในการสร้างความแข็งแกร่งของสหวิทยาการในทุกด้าน ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงและเทรนด์ของโลก “อว.แฟร์ จุดประกายความฝันใหม่ และสร้างแรงบันดาลใจเพื่อต่อยอดให้กลายเป็นความจริง” ซึ่งสามารถเข้าร่วมได้ตั้งแต่บัดนี้ – 17 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์